วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

SF TaoHun 3



“อื้อ แมร่งปวดหัวสัด” ร่างโปร่งสถบก่อนจะลืมตามองรอบๆห้องที่ไม่คุ้นเคย

“ที่ไหนว่ะ เนี่ย ” เขาจำได้แค่ว่าเมื่อคืนดวลเหล้ากับไอ้หัวหน้าแผนกนั่น แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

“โอ้ย!! ” ความเจ็บแล่นริ้วจากสะโพกทันทีที่ขยับตัวทำให้เซฮุนได้แต่ยู่หน้า

กูเป็นอะไรว่ะเนี่ย

หมับ

แรงกอดจากด้านหลังทำให้ ร่างโปร่งขมวดคิ้วแน่นเมื่อรับรู้ว่าบนเตียงที่นอนอยู่ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว ก่อนจะต้องเบิกตาโพลงเมื่อเปิดผ้าห่ม เขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสักชิ้น???

เดี๋ยวนะ ขอดูใหม่อีกรอบ

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

แว๊กกกกกกกกกกกก

ใครนี่มันอะไรกันว่ะ !! ขอประมวลผลก่อนนะ

เขาตื่นขึ้นมาที่ไหนก็ไม่รู้ ในตัวไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น แถมยังเจ็บสะโพกแปลกๆ จนแทบกระดิกตัวไม่ได้

“เหี้ยแล้ว!!” ร่างโปร่งสบถเบาๆ ก่อนจะกลั้นใจเพื่อเหลือบมองคนที่นอนซ้อนหลังอยู่



“ไอ้โยธา!!!”

พลั่ก

ตุ๊บ

“โอ้ย!!!” เท้า(ไม่)น้อยของหนุ่มหัวสีบรรจงถีบงามๆเข้าที่กลางอกของคนที่นอนหลับอย่างสบายอารมณ์จนร่างสูงตกลงไปกองกับพื้นทั้งๆที่ยังฝันหวาน แต่ไอ้เสียงโอดโอ้ยนั่นกลับไม่ใช่เสียงของคนถูกถีบแต่เป็นถีบที่ไม่เจียมสังขารตัวเองต่างหากที่ตอนนี้นั่งน้ำตาเล็ดอยู่บนเตียง

“ไอ้เหี้ย มึงถีบกูทำไม สัด” ร่างสูงโวยวายก่อนจะลุกขึ้นกระชากอีกคนเข้าหาตัว

“แล้วมึงทำอะไรกูห่ะ” ร่างโปร่งแหวลั่น

“หึ มึงก็น่าจะเดาออกนี่ กูกับมึง นอนแก้ผ้าอยู่ด้วยกันแบบนี้ คงเล่นหมากเก็บกันมั้ง” ร่างสูงบอกก่อนจะแสยะยิ้ม

“ไอ้เหี้ยเอ้ย!!”

พลั่ก หมัดขวาของร่างโปร่งกระแทกเข้าที่ปากของคนพูดอย่างจัง

“นี่มึงต่อยกูเหรอห่ะ!!” ร่างสูงตะโกนลั่น ก่อนจะง้างหมัดขึ้นบ้าง อีกคนไม่ยอมหลบแต่กลับจ้องกลับมาด้วยสายตาที่ร่างสูงเองก็อ่านไม่ออก มันปนๆกันทั้งเสียใจ ตกใจ ขวัญเสีย หรืออะไรก็แล้วแต่เถอะ ขี้เกียจคิด แต่ท่าทางที่เหมือนจะร้องไห้แต่กลับจิกเล็บที่แขนตัวเองแน่นเพื่อกลั้นสะอื้น นั่นทำให้เขา ใจอ่อน

บ้าไปแล้ว คนอย่าง ฮวาง จื่อ เทา เนี่ยนะใจอ่อน

เอาเป็นว่าวันนี้ถือว่ามึงโชคดีแล้วกันไอ้หัวสี

ร่างสูงถอนหายใจแรง พลางเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้น ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้อีกคนนั่งจมอยู่กับตัวเองอย่างหาทางออกไม่ได้



พรึบ!! ผ้าเช็ดตัวถูกโยนมาให้ก่อนที่ร่างสูงจะนั่งลงปลายเตียง

“ไปอาบน้ำซะ” สั่งเสียงเข้ม ก่อนจะนั่งเช็ดผมตัวเองไปเรื่อยๆ เซฮุนกัดปากแน่น ก่อนจะค่อยๆขยับตัวช้าๆแต่ก็ต้องยู่หน้าด้วยความเจ็บ ไม่ใช่ ไม่อยากอาบนะน้ำ เหนียวตัวจะแย่ แต่มันลุกไม่ไหวโว้ย แล้วเรื่องจะให้ขอร้องไอ้โยธานะเหรอ ชาติหน้าตอนบ่ายๆก็ไม่มีทาง

“ทำไมยังไม่ไปอีก มึงไม่เหนียวตัวหรือไง ” ร่างสูงตะคอก

“ไอ้เหี้ย มึงไม่เห็นเหรอว่ากูเดินไม่ได้ สัด เหี้ยเอ้ย!!” ร่างโปร่งด่ากลับ

“อ้าว แล้วไม่บอกว่ะ” จื่อเทาบ่นก่อนจะช้อนตัวคนหน้างอขึ้น

“มึงจะทำอะไรกู!!”

“ใจเย็นๆ กูก็แค่จะพามึงไห้องน้ำ บอกก่อนะว่ากูไม่เพิศวาสมึงขนาดนั้นหรอกเว้ย ” ร่างสูงบอกเสียงเรียบก่อนจะอุ้มเซฮุนเข้าห้องน้ำ



ร่างโปร่งยืนมองตัวเองที่หน้ากระจกก่อนขยี้ผมเพื่อระบายวามเครียด ไม่ได้เครียดที่มีอะไรกับผู้ชายหรอก เพราะเขาไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาที่ต้องมาร้องไห้ฟูมฟายเพื่อเรียกร้องความสนใจ คนอย่าง โอ เซ ฮุน ไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นเด็ดขาด แต่ที่เครียดเนี่ยคือคนที่มีอะไรด้วยดันเป็นไอ้คนที่เขา “ไม่ถูกชะตา” ตั้งแต่แรกเห็นนะสิ

“ไอ้เหี้ยเอ้ย ” ร่างโปร่งสบถก่อนจะจัดการอาบน้ำด้วยควมหงุดหงิด

เอาว่ะ อะไรจะเกิดมันต้องเกิด



“เสร็จแล้วเหรอ” ร่างสูงเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังพยายามตะเกียดตะกาย?? ออกมาจากห้องน้ำ

“แล้วมึงเห็นกูไหมล่ะ ถ้าเห็นก็แปลว่ากูอาบเสร็จแล้ว” ร่างโปร่งบอกเสียงเข้ม

“กูถามดีๆนะไอ้เหี้ย มึงแมร่งไม่รวนกูจะตายไหมห่ะ” ร่างสูงส่ายหน้าระอาก่อนจะเดินเข้าไปพยุงอีกฝ่ายมาที่เตียง

“มึงไม่ต้องพูดมาก กูกับมึงมาตกลงกันแบบ แมนๆ ดีกว่า” ร่างโปร่งเปลี่ยนเรื่องก่อนจะนั่งลง

“ตกลงเรื่องอะไร”

“ก็ไอ้เรื่อง ห่าเหว นี่ไง กูขอบอกมึงเลยนะ กูไม่ใช่สาวน้อยสดใสบริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นเรื่องเมื่อคืนถือว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น กูกับมึงยังเป็นคู่อริกันต่อ ตกลงตามนี้นะ” ร่างโปร่งสรุปเองเสร็จสรรพ

“ง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง” จื่อเทาถามเสียงเข้ม ก็บอกไม่ได้ว่าทำไม ถึงแอบไม่พอใจอยู่ลึกๆ ที่คนตรงหน้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“แล้วมึงจะทำให้มันยากทำไม กูเป็นผู้ชาย ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว มึงไม่พูดกูไม่พูดมันก็ไม่มีใครรู้ หรือว่ามึงติดใจกู หึ”ร่างโปร่งยิ้มเยาะ

“เหอะ มึงก็งั้นๆ คู่นอนกูแต่ละคนเด็ดกว่ามึงเป็นร้อยเท่า”

“ก็ดี งั้นตกลงเอาตามที่กูบอก เรื่องเมื่อคืนไม่เคยเกิดขึ้น กูกับมึงไม่เคยกินเหล้าด้วยกัน ตามนั้นนะ” ร่างโปร่งยิ้มอย่าอารมณ์ดีที่หาทางออกได้แต่อีกคนกลับทำได้เพียงสะกดความไม่พอใจเอาไว้





เพล้ง!!!

หลังโรงฝึกยังคงเป็นสถานที่ระบายอารมณ์ที่ดีที่สุดของ ฮวาง จื่อเทา ร่างสูงกำลังเขวี้ยงขวดเปล่าอย่างบ้าคลั่ง นัยตาวาวโรจน์ที่กำลังครุกรุ่นไปด้วยความไม่พอใจทำเอาคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ขนลุกเกรียว

“ไอ้หัวหน้ามันเป็นอะไรว่ะ มึงรู้ไหมคริส” ลู่ห่านเอ่ยถามเพื่อนหลังจากดูหัวหน้าแผนก ระบายอารมณ์มาสักพัก

“กูจะไปรู้ได้ยัง ก็อยู่ด้วยกันเนี่ย จะว่าไปสองสามวัน มาเนี่ย มันก็เอาแต่หงุดหงิด แต่กลับไม่ยักออกไปหาเรื่องตีกับชาวบ้านเหมือนทุกที ” คริสบอกเพื่อน ระยะสองสามวันมานี่ทุกคนในแผนกเห็นถึงความ หงุดหงิด ในแววตาของจื่อเทาได้อย่างชัดเจนแต่ไม่มีใครกล้าพูดหรือถามถึงสาเหตุ แต่คริสว่ามันแปลก จื่อเทาที่เขารู้จักเป็นพวกใจร้อนกล้าได้กล้าเสีย ถ้ามีใครไม่กลัวตายมาทำให้หงุดหงิดขนาดนี้ ป่านนี้ไอ้เหี้ยนั่นมันเละไปแล้ว แต่นี่จื่อเทากลับเอาแต่ระบายอารมณ์กับข้าวของ มันไม่ธรรมดาแล้วนะแบบนี้

“เฮ้ ทุกคนกินซาลาเปาไหมว่ะ” ซิ่วหมิ่นเดินยิ้มมาแต่ไกลก่อนจะยื่นถุงซาลาเปาให้เพื่อน แต่ต้องชะงักเมื่อใครสายตาแต่ละคนที่มองมา

“ง่ะ เป็นอะไรกันว่ะ” ซิ่วหมิ่นเอ่ยถามเสียงเบา

“ชู่ว์ ไอ้อ้วน อย่าเสียงดังดิ หัวหน้าอารมณ์ไม่ดีนะวันนี้” ลูห่านเตือนเพื่อน ซิ่วหมิ่นหันซ้ายหันขวาอยู่สักพักก่อนจะวิ่งเข้าไปหลบหลังคนที่เพิ่งเดินเข้ามา

“เฮ้ย อะไรของมึงว่ะ หมิ่น” เฉินแหวลั่นเพราะไอ้เพื่อนบ้าพวกนี้มันทำลายสมาธิเขาอีกแล้ว นี่เขากำลังหัดท่องคาถาเรียก ลม เรียก ฝน อยู่นะเว้ย ถ้าสำเร็จนะ เขาจะเอาไปออกงานวัด ฮ่าๆๆ ไม่รวยคราวนี้แล้วจะรวยคราวไหน

“เงียบๆน่า กูขอหลบหลังมึงหน่อย วันนี้หัวหน้าแมร่งอารมณ์ไม่ดีกลัวโดนลูกหลง”

“เหรอๆ งั้นกูจะร่ายคาถา มหาเวทย์กำบังกายไว้นะ รับรองว่าไม่มีใครทำอันตรายเราได้ ฮ่าๆๆ” เฉินหัวเราะร่า ท่ามกลางสายตาเอือมระอาของเพื่อนที่ชินกับพฤติกรรมแปลกๆของเพื่อนคนนี้ มันเคยสนใจอะไรนอกจาก เวทย์มนต์ คาถาบ้างหรือเปล่าว่ะ





ห้าแสบของแผนกโยธาที่เดินตามถนนในสถาบันเรียกความสนใจได้ไม่น้อย เพราะน้อยครั้งมากที่จะเห็นทั้งห้าคนเดินด้วยกันแบบนี้ ปกติมักจะรวมตัวกันเฉพาะเวลาที่มีเรื่องมากกว่า

แล้ววันนี้ มันจะไปตีกับใครว่ะ



จื่อเทาแสยะยิ้มก่อนจะเดินนำรุ่นพี่ทั้งสีไปที่โรงอาหาร จริงๆวันนี้ก็ไม่มีอะไรหรอกก็แค่เบื่อหลังโรงฝึกเลยอยากลองมากินข้าวที่โรงอาหารแบบคนอื่นๆเขาบ้าง แต่พวกแม่งมองอยากกะเขาเป็นตัวประหลาด

เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจในโรงอาหารเงียบกริบลงทันทีที่ร่างสูงของหัวหน้าโยธาเดินเข้ามาสายตาเย็นชาที่มองไปรอบนั่นทำให้คนทั้งโรงอาหารตัวแข็งทื่อ สีหน้าเฉยชาแต่ดุดันกำลังทำให้คนทั้งหมดแทบไม่กล้าหายใจ พนันได้เลยว่าถ้าตอนนี้มีเข็มตรงสักเล่มคงได้ยินกันทั้งโรงอาหาร

“โห ไม่ได้เข้ามาซะนาน โรงอาหารมีอะไรกินบ้างน๊า” คนแก้มป่องบอกด้วยรอยยิ้ม ซึ่งมันทำให้บรรยากาศดีขึ้นมาเล็กน้อย ย้ำว่าแค่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะถึงซิ่วหมิ่นจะดูร่าเริงแค่ไหน แต่เจ้าตัวก็เป็นหนึ่งในเด็กแสบโยธา เรื่องความโหดน่ะไม่ต้องพูดถึง

ห้าหนุ่มนั่งทานข้าวของตัวเองไปเรื่อยๆท่ามกลางความเงียบของโรงอาหาร ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไม คนที่เกลียดความวุ่นวายอย่าง ฮวาง จื่อเทาถึงมากินข้าวที่นี่แทนที่จะกินหลังโรงฝึกเหมือนทุกวัน



“นี่ เซฮุน วันนี้อาจารย์อี้ชิง ชมเราด้วยนะ ว่าทำเค้กได้ดีมาก” เสียงใสเอ่ยขึ้นก่อนที่ร่างเล็กจะเดินเช้ามาพร้อมกับใครบางคน ใครที่ทำให้คนทั้งโรงอาหารหายใจไม่ทั่วท้อง บางคนถึงขั้นวิ่งแจ้นออกไปทันที คนๆนั้นคือ โอ เซฮุน ใครๆก็รู้ว่าตอนนี้ร่างโปร่งหัวสีกำลังมีเรื่องกับหัวหน้าโยธาอยู่ ถ้ายังไม่อยากโดนลูกหลงอย่าอยู่ใกล้เด็ดขาด

“งั้นวันนี้ เราคงต้องชิมซะแล้วล่ะ ของอร่อยต้องกินๆ” ร่างโปร่งบอกอย่างร่าเริงก่อนจะนั่งลงกินเค้กของคนตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยโดยที่ไม่สนใจบรรยากาศรอบข้างเลยสักนิด ไอ้ที่เขาบอกว่า โอเซฮุนเป็นคนไม่สนโลก ท่าจะจริง



หึ มาแล้วสินะ โอเซฮุน ร่างสูงแยะยิ้ม เป้าหมายของเขามาแล้ว แถมยังมาให้ตะครุบถึงที่ ไม่เสียแรงที่ยอมทนกับความวุ่นวาย??? ในโรงอาหาร




..........................TBC......................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น