วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

TaoHun..เด็กแสบโยธาเด็กซ่าช่างกล 1





เพล้ง!!!


เสียงแก้วแตกกระทบพื้นปูนของลานกว้างหลังโรงฝึก ดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงในเสื้อช๊อปสีเทาจะตะโกนลั่น


“ไอ้เหี้ยเอ้ย” เสียงนั้นสบถก่อนจะปรายตามองไปยังเพื่อนที่นั่งโอดโอยอยู่ข้างๆ


“พวกมึงนี่แมร่งโคตรเสียชื่อ แผนกเลยว่ะ ทำไมปล่อยให้มันอัดเละกลับมาได้ขนาดนี้ห่ะ” เสียงทุ้มตวาดลั่นจนคนเจ็บได้แต่ก้มหน้าตัวสั่นหงึกๆ


“ไม่เอาน่า จื่อเทา ของแบบนี้มันมีแพ้กันได้” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นก่อนที่ผู้ชายหน้าสวยเกินกว่าจะเป็นเด็กช่างจะลุกขึ้น


“พี่ไม่ต้องออกรับแทนพวกมันหรอกพี่ลู่ห่าน ไปตั้งสาม แต่แพ้คนแค่คนเดียวเนี่ยนะ แล้วแบบนี้ศักดิ์ศรีของแผนกเราจะเหลืออะไรว่ะพี่” อีกคนยังตวาดไม่เลิก


“แต่ว่า จื่อเทา คือพวกเรา…”“อย่าเสือกพูด ถ้ากูไม่ได้สั่ง!!” ร่างสูงบอกเสียงลอดไรฟัน



“เฮ้ยไอ้เทา เอาน่า ใจเย็นๆดิว่ะ ไปตวาดพวกแมร่งแบบนั้น เดี๋ยวก็ตายกันหมดหรอก ” เสียงที่สามบอกก่อนที่จื่อเทาจะปรายตามองรุ่นพี่ที่เหมือนกับรองหัวหน้าแผนก อย่างเคืองๆ



“เหี้ยคริส กระตุกหนวดแพนด้าแล้วมึง” คนแก้มป่องที่นั่งอยู่บอกเบาๆ แต่คนที่ถูกพาดพิงทำแค่ไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจนัก



“อย่ามามองกูแบบนั้น กูไม่ได้ห้ามมึงลงโทษพวกมัน แต่กูแค่อยากให้มึงใจเย็นๆลงบ้าง เอะอะก็เสียงดังโวยวาย ใครมาได้ยินเข้าเขาจะหาว่าแผนกเรา ถ่อย!!” ร่างสูงที่ชื่อคริส บอกรุ่นน้องเบาๆ



“โทษทีว่ะ พี่ ผมแค่โมโหมากไปหน่อย ยังไง พี่ซิ่วหมิ่นกับพี่เฉินช่วยเอาพวกมันไปทิ้งที่ไหนก็ไปเถอะ ผมไม่อยากเห็นหน้า” หัวหน้าแผนกสั่งเสียงเฉียบก่อนที่คนแก้มป่องจะยิ้มรับ



“วางใจเถอะน่า เดี๋ยวกูกับไอ้เฉินจัดการเอง เฮ้ย พวกมึงสามตัวลุกสิว่ะ จะอยู่ให้หัวหน้าพวกมึงกระทืบซ้ำหรือไง” สามร่างที่นั่งสั่นเป็นเจ้าเข้ารีบวิ่งตามซิ่วหมิ่นออกไปทันที



“เฮ้ย เชี่ยเฉิน ไอ้หมิ่นไปแล้วมึงไม่ไปเหรอว่ะ” ลู่ห่านหันมาสะกิดเพื่อนที่นั่งหลับตาอยู่



“เหี้ย ไอ้ลู่ทำลายพิธีกู นี่กูกะจะเสกควายเข้าท้อง ไอ้คนที่มันหยามหน้าเราสักหน่อยพิธีกุล่มเลยแมร่ง” เฉินบอกอย่างหัวเสีย



“ไปทำที่อื่น เดี๋ยวไอ้หมิ่นแมร่งไม่เจอก็กินหัวมึงเอาหรอก สัด”



“ไล่กูจัง เออๆ กูไปแล้ว” เฉินฟึดฟัดแต่ก็ยอมเดินตามคนทั้งสี่ออกไป



“แล้วตกลงมึงเอาไงว่ะ ไอ้เทา” คริสเอ่ยถาม



“ขอผมคิดก่อนพี่ ตอนนี้พวกเราโดนอาจารย์ซูโฮ เพ่งอยู่ ถ้าขืนมีเรื่องแมร่งโดนไล่ออกยกเซ็ตแน่ ขอผมคิดสักสองวันแล้วกัน” จื่อเทาบอกก่อนจะเดินออกไปทันที




หึ ไม่เสียแรงที่พวกเขาเลือกมันมาเป็นหัวหน้า แม้ว่า จื่อเทา จะอยู่แค่ปีสอง แต่เรื่องฝีมือการต่อสู้เชื่อแน่ว่าทั้งแผนกไม่มีใครล้มมันได้ จะมีปัญหาก็แค่มันมุทะลุไปหน่อยใจร้อนไปนิดแต่ก็ยังดีที่ยอมรับฟังคนอื่นบ้าง ร่างสูงคิดก่อนจะมองแผ่นหลังของหัวหน้าแผนกโยธา อย่างชื่นชม ร่างโปร่งของใครคนหนึ่งเดินไปรอรถเมล์ที่หน้าโรงเรียนเหมือนทุกวัน ผมหลากสีที่มองไปมองมาเหมือนนกแก้วเกาะบน ไอติมเรนโบว์ ช่างยั่ว(โมโห) คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ดีเหลือเกิน พนันได้เลยว่า ร้อยทั้งร้อนต้องหันกลับมามอง และถามตัวเองว่า ไอ้เหี้ยนี่มันบ้าเปล่าว่ะ


“ไอ้ฮุน!!” เสียงเรียงดังขึ้นก่อนที่คนตัวเล็กจะเดินเข้ามาหา ตาเรียวเล็กที่เขียนด้วยอายไลน์เนอร์กำลังจ้องคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง


“อะไรของมึง ไอ้หมาน้อย มองกูไมว่ะ”


“ไอ้เซฮุน กูชื่อแบคฮยอน ไม่ได้ชื่อหมา สัดนิ” คนตัวเล็กตวาดลั่น



“โถ่ๆ ตัวเท่าลูกหมา จะทำอะไรกูครับ”



“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง ที่กูมาวันนี้ กูว่าจะถามมึงหน่อย ใช่มึงหรือเปล่าที่ไปกระทืบเด็กโยธาจนหยอดน้ำข้าวต้มไปสามคนน่ะ” ร่างเล็กเอ่ยถามเสียงเครียด เรื่องนี้มันทำให้เขาคิดไม่ตกเลยจริงๆ ใครๆในสถาบันก็รู้ทั้งนั้น ว่าถ้าอยากมีชีวิตสงบสุขอย่าไปยุ่งกับพวกโยธา ลำพังลูกน้องน่ะไม่เท่าไหร่หรอกแต่หัวหน้าแผนกพวกมันอ่ะดิ โหดสัด



“แล้วมึงคิดว่าใช่ป่ะล่ะ” อีกคนยังกวนไม่เลิก



“หึ ไอ้หัวสี แผนกช่างกล มันจะมีสักกี่คนกันว่ะ ถ้าไม่ใช่มึง”



“ก็ตามนั้น” ร่างโปร่งบอกอย่างสบายๆ ไอ้เรื่องชกต่อยกับเด็กช่างอย่างเขามันเป็นของคู่กันปกติก็ตีกับสถาบันอื่นแทบทุกวันอยู่แล้ว วันนี้ก็แค่แปลกหน่อยที่ดันตีกับคนในสถาบัน



“ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะมึง ถ้าไอ้พวกนั้นยกพวกมามึงจะหัวเราะไม่ออก”“เหอะ ถ้ากลัวกูก็คงไม่กล้าทำหรอกว่ะ กูก็อยากรู้เหมือนกันว่า ไอ้หัวหน้าโยธาที่เขาว่าเก่งนักเก่งหนาน่ะ จะเก่งสักแค่ไหนเชียว”



“ทำเป็นพูดดีไปเถอะมึง แล้วอย่าวิ่งร้องไห้มาให้กูช่วยนะ”



“ฮ่าๆๆ เด็กคหกรรมตัวเท่าลูกหมาอย่างมึง จะช่วยกูได้แน่เหรอว่ะ” ร่างโปร่งหัวเราะร่วน“เซฮุน แบคฮยอน มาอยู่นี่เองเราตามหาตั้งนาน” ร่างเล็กๆของผู้ชายตาโตตะโกนเรียก



“แบคฮยอน ไม่รอเราเลย เราอุส่าห์ไปเอาการบ้าน วิชาขนมอบของอาจารย์อี้ชิงมาให้นะ” คนตาโตบอก


“เอาน่า คยองซู ฉันแค่มีเรื่องจะคุยกับไอ้หัวสีรุ้งนี่ หน่อยน่ะ ”



“ไปเถอะ จงอินกับชานยอล รอนานแล้วนะ เร็วๆ เราไปก่อนนะ เซฮุน” คนตาโตบอกลาก่อนจะลากเพื่อนตัวเล็กให้ขึ้นรถคันหรูไปด้วยกัน





รถเมล์สายคุ้นตาวิ่งมาแต่ไกลคนหัวสี กำลังเล็งเป้าหมายอย่างเต็มที่เพราะการขึ้นรถเมล์ในชั่วโมงเร่งด่วนแบบนี้ถือว่าเป็นงานหนักเอาการ เพราะมันต้องใช้พละกำลังปฏิภาณไหวพริบกันพอสมควร
เอี๊ยดดดดดด เสียงล้อรถครูดถนนเป็นเหมือนสัญญาณเริ่มต้น เหล่าฝูงชนจำนวนมหาศาลกำลังยื้อแย่งเพื่อจะไปให้ถึงที่นั่งบนรถอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าขึ้นไปแล้วก็ต้องไปยืนอัดเป็นปลากระป๋องอยู่ดี



“ฟู่” ร่างโปร่งเป่าปากอย่างโล่งใจเมื่อเข้ามายืนในรถจนได้ ก่อนจะเหลือบมองเบาะหลังที่เหมือนจะมีที่ว่างเหลืออยู่หนึ่งที่



เสร็จกูสิครับร่างโปร่งกระหยิ่มยิ้มย่องก่อนจะเดินไปที่จุดหมาย แต่…..



“ไอ้เหี้ย!!” ร่างโปร่งสบถเสียงไม่เบาหนักเมื่อที่นั่งที่ว่างอยู่ที่เดียวบนรถจะถูกใครสักคนแย่งไป แต่อะไรมันก็ไม่เจ็บใจเท่า ไอ้คนที่แย่งไปมันยังหันมายักคิ้วเยาะเย้ยเขาด้วย



ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้โยธา


เขารู้ได้ยังไงนะเหรอว่าไอ้คนหน้าด้านนั่นมันเรียนโยธา ก็คนตรงหน้าเนี่ย คนดังของสถาบันเลยนะ ใครบ้าจะไม่รู้จัก ฮวาง จื่อ เทา หัวหน้าแผนกโยธา หึ แมร่งคงนิสัยแย่ตั้งแต่ลูกน้องยันหัวหน้าแผนกเลยสินะร่างโปร่งได้ข่มอารมณ์ไว้ในใจ บนรถเมล์ที่แน่นขนาดนี้ จะมามีเรื่องกันมันไม่สะดวก แต่อย่าให้เจออีกนะมึงถ้าเจอแมร่งจะซัดไม่ยั้งเลย ไอ้คนนี่ก็ขยันขึ้นรถจังว่ะ เห็นไหมเนี่ยว่ามันแน่นจนจะหายใจไม่ออกแล้ว โทษลมโทษฟ้าไปเรื่อย พอมารู้ตัวอีกทีตัวเองก็โดนเบียดมาอยู่ตรงหน้าอีกคนซะแล้ว



“ไงมึง ไอ้หัวสี” ร่างสูงเอ่ยทัก“หึ” แต่อีกคนแค่แค่นเสียงในลำคอ ก่อนจะมองเลยออกนอกหน้าต่าง



เอี๊ยดดดดดด



เหว๋อ ตุ๊บ!!!!!!



“หึ นี่มึง อยากนั่งตักกูมากขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ” จื่อเทาถาม คงเพราะอีกคนมัวแต่เก็กอยู่เลยไม่ทันระวังตอนที่รถเบรกเลยเสียหลัก แต่เหมือนนรกเป็นใจ เพราะไอ้หัวสี คู่อริ มันหล่นตุ๊บลงบนตักเขาพอดีเป๊ะ



“ไอ้เหี้ย!!!” ร่างโปรงแหวลั่นก่อนจะรีบกดกริ่งเมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงที่หมายแล้ว กูหนอกู ล้มลงที่ไหนไม่ล้ม ดันไปล้มบนตักไอ้เหี้ยนั่น แมร่ง คนก็มองกันทั้งรถ กูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน


“เหี้ยเอ้ย อย่าให้เจอนะมึง” เซฮุน บ่นกับตัวเองเบา



“ถ้ามึงเจอกู มึงจะทำไมว่ะ” เสียงหนึ่งตะโกนถาม จากข้างหลัง“เฮ้ย มึง มาได้ไงว่ะ”“ก็เดินมา” อีกคนตอบด้วยท่าทีสบายๆ

“มึงตามกูมาทำไม”


“จุ๊ๆๆ เด็กน้อย มึงหลงตัวเองไปหน่อยไหมว่ะ กูจะตามมึงมาทำหอกอะไร มึงเป็นใครเหรอครับ”



เซฮุนรู้สึกเจ็บ ยิ่งกว่าโดน ถีบยอดหน้า แมร่ง ไอ้นี่มันเยาะเย้ยกู“แล้วมึงจะเอาไงก็ว่ามาดีกว่า ตัวๆเลยไหม มึงอยากแก้แค้นที่กูกระทืบลูกน้องมึงไม่ใช่เหรอ” เซฮุนลอยหน้าลอยตาพูด ก่อนจะปรายตามองอีกคนที่กำหมัดแน่นเหมือนสะกดอารมณ์



“หึ กูไม่ต่อยกับมึงให้เสียเวลาหรอก กูว่ากูมีแผนเด็ดกว่านั้น เตรียมตัวไว้ให้ดีเถอะมึง”



“มึงนั่นแหล่ะ ที่ต้องระวังตัว” ร่างโปร่งชี้หน้าก่อนจะเดินเข้าซอยไป



“มึงนี่น่าสนใจกว่าที่คิดอีกนะ ไอ้หัวสี” ร่างสูงบอกเบาๆก่อนจะมองตามแผ่นหลังของอีกคน เรียนที่เดียวกันมาสองปี แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่เขากับเซฮุนจะปะทะกันตรงๆสักที ไม่ใช่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กแสบของช่างกล แต่เพราะรู้ถึงหลีกเลี่ยงที่จะมีเรื่องมาตลอด เพราะขี้เกียจจะวุ่นวาย แค่ตีกับสถาบันอื่นก็เหนื่อยจะตายอยู่ แต่ตอนนี้ชักรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดซะแล้วสิที่ปล่อยเวลาให้มันผ่านมาตั้งสองปี
แล้วเราจะได้เห็นดีกัน โอเซฮุน

.........................TBC...................................
กลับไปเม้นในเด็กดีให้ด้วยนะคะ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น